หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า ช่วงนี้ตลาดหมี ช่วงนี้ตลาดกระทิง(Bull Market) กันมั้ยคะ บางคนอาจรู้เรื่องนี้อยู่แล้วแต่มาแนะนำมือใหม่ละกันว่า มันคืออะไร เกิดขึ้นอย่างไร จริงๆคำว่าตลาดกระทิง และ ตลาดหมี นั้นถูกใช้เป็นคำศัพท์ทางการเงินมานานแล้ว ไม่ได้พึ่งถูกใช้ในโลกของ Crypto ดังนั้นมาดูความหมายของมันกัน
ตลาดกระทิง (เปรียบเทียบกับวัวกระทิง ที่มักจะมองไปข้างบนเสมอ)
– ตลาดขาขึ้น: ตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและ/หรือเติบโตอย่างมาก.ตลาดหมี (เปรียบเทียบกับหมี ที่จะมองลงมาข้างล่างเสมอ)
– ตลาดขาลง: ตลาดที่ประสบกับภาวะตกต่ำอย่างต่อเนื่องและ/หรือตกต่ำอย่างมาก
( ไม่ใช่ว่าช่วงนี้ตลาดกระทิงแล้วจะบวกกันทั้งหมด แค่มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลาดหมีก็เช่นกัน )
มาลงลึกกันในเรื่องของแต่ละตลาดกันต่อ
ตลาดกระทิง (Bull Run, Bull Market)
หมายถึงช่วงเวลาที่นักลงทุนส่วนใหญ่ทำการซื้อ มีอุปสงค์มากกว่าอุปทาน ความเชื่อมั่นในตลาดอยู่ในระดับสูง และราคาเพิ่มสูงขึ้น หากในตลาดใดตลาดหนึ่ง คุณเห็นว่าราคามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่อาจเป็นสัญญาณว่านักลงทุนส่วนใหญ่กำลังเริ่มมองโลกในแง่ดี หรือ “มั่นใจ” ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะหมายความว่าเรากำลังมองเห็นจุดเริ่มต้นของตลาดกระทิงเนื่องจากราคาของสกุลเงินดิจิทัลหนึ่งๆ นั้นได้รับอิทธิพลจากความเชื่อมั่นสาธารณะที่มีต่อสินทรัพย์นั้นอย่างมาก ดังนั้นกลยุทธ์ที่นักลงทุนบางคนใช้คือการพยายามกำหนดมุมมองในด้านบวกของนักลงทุนในตลาดนั้นๆ.ปัจจัยใดที่ทำให้ตลาดกระทิงสิ้นสุดลง : เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะเริ่มลดลง ซึ่งอาจได้รับการกระตุ้นจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ข่าวร้ายอย่างการออกกฎหมายที่ไม่เอื้ออำนวย หรือสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงอย่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้น การเคลื่อนไหวของราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็วนั้นอาจเริ่มทำให้เกิดตลาดหมี ที่ซึ่งนักลงทุนในจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อมั่นว่าราคาจะตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการถดถอยอย่างรวดเร็วขณะที่นักลงทุนขายสินทรัพย์เพื่อป้องกันไม่ให้ขาดทุนในอนาคต
ตลาดหมี (Bear Market)
หมายถึง ช่วงเวลาที่อุปทานสูงกว่าอุปสงค์ ความเชื่อมั่นต่ำ และราคาตกต่ำลง นักลงทุนที่มองในแง่ลบซึ่งเชื่อว่าราคาจะตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องนั้นจึงถูกเปรียบเป็น “หมี” การซื้อขายในตลาดหมีอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์เป็นเรื่องยากในการคาดเดาว่าตลาดหมีจะสิ้นสุดลงเมื่อใดและจะถึงราคาต่ำสุดเมื่อใด ทั้งนี้เนื่องจากการดีดตัวกลับขึ้นมักจะเป็นกระบวนการที่ช้าและคาดเดาไม่ได้ ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกมากมาย เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจ จิตวิทยานักลงทุน และข่าวสารหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก.แต่ตลาดหมีก็ยังมีโอกาสดีๆ ซ่อนอยู่ เพราะในท้ายที่สุด หากกลยุทธ์การลงทุนของเราเป็นแบบระยะยาว การซื้อระหว่างที่เกิดตลาดหมีอาจให้ผลตอบแทนได้เมื่อวงจรดังกล่าวย้อนกลับในตัวของมันเอง
น่าจะพอเข้าใจแล้วนะคะสำหรับมือใหม่ว่าแต่ละช่วงของตลาดถูกเรียกยังไง และเริ่มขึ้นหรือจบลงตอนไหน โดยประมาณหวังว่าทุกคนจะมองเห็นจุดที่ตัวเองควรเข้าและจุดที่ตัวเองควรออก จะได้ทำกำไรได้ทุกๆคน
ที่มา : coinbase
ที่มา : essentialbinaryoptions
(นี้ไม่ใช่การแนะนำการลงทุนแต่เป็นการนำเสนอข่าวสารในด้านต่างๆอ่านแล้ว DYOR กันก่อนด้วยนะคะ)