เมื่อเริ่มเข้าใกล้ช่วงสิ้นปีหรือช่วงปิดไตรมาสสุดท้ายของปีแล้ว บริษัทห้างร้านต่างๆก็เริ่มจะสรุปภาพรวมของบริษัทรายปีแล้วใช่ไหมครับ ตลาดทุนต่างๆก็เริ่มรวบรวมสถิติรายปีกันแล้ว ซึ่งตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ก็มีการเก็บสถิติข้อมูล on-chain ต่างๆรายปีเช่นกันครับ
ซึ่งในปี 2021 จากข้อมูลสถิติจากหลายๆเจ้านั้นยกให้ปีนี้เป็น “Golden year of Cryptocurrencies” เลย ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยอยากเสนอบทความผสมกับข้อมูลเชิงสถิติ และความคิดเห็น เกี่ยวกับภาพรวมของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ทั้งปี 2021 ซึ่งได้นำแนวคิด และ ข้อคิดเห็นมาจากทวิตเตอร์ของคุณ Larry Cermak และ สถิติต่างๆจาก The Block Research ซึ่งขอขอบคุณอย่างสูงสำหรับข้อมูลครับ และขอสุขสันต์วันคริสมาสต์และสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า ขอให้มีความสุขในการลงทุนในโลกดิจิทัลนะครับ

ในภาพรวมของปีนี้ เราสามารถพูดได้เลยว่าปี 2021 เป็นปีแห่งคริปโทเคอร์เรนซี่เลยทีเดียว
มีหลายสถิติมากที่ถูกรายงานออกมาจาก real-time data dashboard ซึ่งสถิติหลายๆอย่างได้ทำจุดสูงสุดสถิติใหม่ในปีนี้ เช่นจำนวนเงินที่ไหลเวียนใน cryptocurrency exchange ทั้งปีที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ และจำนวนเงินไหลเวียนใน cryptocurrency exchange รายวัน จำนวนเงินเฟียสที่ได้ทำการแลกเปลี่ยนใน cryptocurrency exchange รวมไปถึงอัตราส่วนแบ่งทางการตลาดที่แข่งกันของ cryptocurrency exchange ที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามาอย่างมหาศาลเลยครับ
นับเป็นว่าเป็นปีที่นักลงทุนทั้งรายใหญ่รายเล็กเริ่มเข้ามาในตลาดดิจิทัลมากขึ้นทีเดียวครับ

ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่เราเริ่มได้เห็นการเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบัน และบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่
ถึงแม้ในช่วงแรกอาจจะเข้ามาจากแรงเก็งกำไร แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นแนวโน้มที่ดีต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ครับ ซึ่งแตกต่างจากปี 2017 ที่ทุกอย่างดูคลุมเครือแต่ในตอนนี้ดูชัดเจนกว่าเมื่อก่อนมากครับ

ในปี 2021 มีเงินทุนมากกว่า 25,000 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐจากนักลงทุน venture capital ที่ทำการโยกย้ายเงินเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่
ซึ่งเกิดดีลจำนวน 1,700 ดีลเกิดขึ้นในปี 2021 โดยมี 1,000 ดีล มาจากรอบ seed (รอบพัฒนา)แสดงให้เห็นถึงความสนใจของ venture capital ในการลงทุนในเชิงโครงสร้าง ส่วนดีลที่เหลืออยู่ในรอบพัฒนาที่กำลังจะมาในปี 2022 และ 2023 เป็นอะไรที่น่าจับตามองจริงๆครับ

ในปี 2021 มีอย่างน้อย 65 บริษัทคริปโทเคอร์เรนซี่ หรือทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชน ได้กลายเป็น “ยูนิคอร์น”
ซึ่งหมายถึงว่าบริษัทได้มีมูลค่าและมีสินทรัพย์ในครอบครองเกิน 1พันล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐหรือมากกว่านั่นเองครับ แสดงให้เห็นถึงว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมใหม่ของโลกได้เกิดขึ้นแล้วครับ ซึ่งก็คือ “อุตสาหกรรมดิจิทัล” นั่นเอง

จากสถิติรายปีของ The Block พบว่า มีจำนวนเงินไหลเวียนในตลาด spot ในปี 2021 สูงถึง 14.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งมีจำนวนสูงกว่าปีแล้วที่แล้วถึง 8 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าตลาด spot เป็นตลาดหลักของคริปโทเคอร์เรนซี่ที่มีคนในความสนใจอย่างมากในปีนี้ โดยเหตุผลอาจจะมาจากความเข้าถึงที่ง่ายและไม่ซับซ้อนของตลาดนี้ครับ

จากสถิติรายปี ส่วนใหญ่ของเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ในปี 2021 นั้นเป็น stablecoins และมี 7.5% ของจำนวนเงินดังกล่าวเป็น Bitcoin ซึ่งจำนวนเงินและการเติบโตนั้นแตกต่างจากปี 2020 ที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง
แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนที่เลือกเข้ามาในตลาด โดยอาจจะทำการซื้อ Bitcoin ในจำนวนหนึ่งและเก็บเงินไว้ใน stablecoins เพื่อรอลงทุนใน sector ต่างๆของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่นั่นเองครับ

จำนวนเงินลงทุนในปี 2021 ที่ไหลเข้าตลาด Bitcoin Futures เติบโตมากกว่า 3 เท่ากว่าปีที่แล้ว โดยปีที่แล้วอยู่ที่ 6 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
ซึ่งในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นถึง 22 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ ตามมาด้วย ETH Futures ที่โตจากปีที่แล้ว 7 เท่า จาก 1.5 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ สู่ 10 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปีนี้ และ Altcoins Futures ต่างๆก็เติบโตเพิ่มขึ้นมาตลอดปี 2021 เช่นเดียวกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเม็ดเงินที่ต้องการเก็งกำไรที่เข้ามาในตลาดฟิวเจอร์ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่มากขึ้นครับ

ในมุมมองรายปีของ Bitcoin Futures โดย CME ที่ปัจจุบันถูกใช้เป็นตลาดหลักสำหรับ Bitcoin ETFs ต่างๆที่ถูกอนุมัติโดย SEC ของสหรัฐ โดยในปีนี้มีการเติบโตที่สูงอย่างมาก
มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นจาก 130พันล้านเหรียญดอลล่าเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว สู่ 700พันล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปีนี้ โดยจำนวนการเปิดสัญญาเพิ่มขึ้นจาก 1.5พันล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปีที่แล้ว สู่ 4พันล้านดอลล่าสหรัฐในปีนี้
มาดูกันว่าในปีหน้า 2022 จะมีการเคลื่อนไหวอะไรใหญ่ๆเกี่ยวกับ CME อีกบ้าง และสิ่งที่ทุกคนกำลังจับตามองเกี่ยวกับ spot ETFs จะถูกอนุมัติหรือไม่ เมื่อมีเม็ดเงินไหลเวียนอยู่ในตลาดในปี 2021 มากถึงขนาดนี้

ในปีนี้ Stablecoins กลายเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนของเงินจากภายนอกกับสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่และเริ่มเป็นที่ยอมรับของสถาบันต่างๆมากขึ้น
โดยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจาก 30 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปี 2020 สู่ 140 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปีนี้ ซึ่งไหลเวียนสะสมใน chain ต่างๆถึง 5หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปี 2021 ซึ่งโตมากกว่า 370% ในสถิติเทียบปีต่อปี

ในปีนี้พบว่า Bitcoin ที่ไหลเวียนอยู่ใน chain ต่างๆมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 1หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปี 2020 สู่ 4.2 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปี 2021
ขณะที่ Ethereum ก็เพิ่มขึ้นจาก 400 พันล้านเหรียญดอลล่าสู่ 3.3หมื่นล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของ $BTC และ $ETH ที่ไหลเวียนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ตลอดทั้งปีครับ

จากภาพรวมรายปี Miner ที่ขุด Bitcoin สามารถทำรายได้ถึง 16พันล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐในปีนี้ โดยสูงกว่าปี 2020 ถึง 250%
ส่วน Miner ของ Ethereum ทำรายได้ได้สูงถึง 17พันล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐซึ่งมากกว่า 700% ของปีที่แล้วในอัตราส่วนเทียบปีต่อปี
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีจำนวน miner ที่คอยช่วยสนับสนุนเพิ่มความแข็งแรงของระบบ network ของ $BTC และ $ETH เพิ่มมากขึ้นครับ

ในปีนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับเหมืองขุดเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี่เกิดขึ้นมากมาย
โดยหลังจากการแบนเหมืองขุด $BTC ในประเทศจีน ทำให้แรงขุดของ $BTC ร่วงลงถึง 50% ทำให้นักขุด $BTC ได้ย้ายถิ่นฐานสำหรับการขุดไปขุดในประเทศอื่น อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา คาซัคสถาน รัสเซีย มาเลเซีย
ซึ่งปัจจุบันแรงขุด (Hash Rate) ของ $BTC ได้กลับมาอยู่ในจุดที่ใกล้จะทำสถิติสูงสุดใหม่แล้ว ตามมาด้วยแรงขุดของ $ETH ที่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ไปที่เรียบร้อยในปีนี้ครับ

ในปี 2021 มีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับ Bitcoin เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นบททดสอบของ Bitcoin ในการพิสูจน์ตัวเองผ่านกาลเวลาต่างๆ ทั้งผ่านการพัฒนา และการถูกยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆในวงกว้าง รวมถึงการถูกใช้งานในชีวิตจริงครับ

ในปี 2021 มีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับ Ethereum เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นการ adoption เข้ากับ sector ต่างๆของคริปโทเคอร์เรนซี่ และการพัฒนา Layer 2 ที่เข้ามาแก้ปัญหาการ Scaling และค่าธรรมเนียมที่มีราคาสูง
มาจับดูต่อไปว่า “The World Computer” อย่าง Ethereum จะถูกพัฒนาไปในทิศทางไหนในปี 2022 กันครับ

ในปี 2021 เทรนของ NFT และ กระแสของ GameFi ก็เริ่มกินส่วนแบ่งในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ และดึงเม็ดเงินเข้ามาในตลาดในโลกดิจิทัลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
และกระแสก็ทวีความแรงขึ้นอีกเมื่อเกิดเทรนของ Metaverse ขึ้น ซึ่งในปีนี้อาจจะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญว่าสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง NFTs และวงการ GameFi ว่าจะสามารถพัฒนาและไปต่อในปีต่อๆไปได้ครับ