OPTION คือตัวการทำให้​ Bitcoin​ ลง?
OPTION คือตัวการทำให้​ Bitcoin​ ลง?

วันนี้แอดจะมาอธิบายให้ทุกๆคนฟังว่า ทำไมสิ่งที่เรียกว่า Option ถึงส่งผลกับสถานการณ์ปัจจุบันทันด่วนของพวกเรากันครับแต่ก่อนจะทราบว่ามีผลยังไง เริ่มต้นเราควรจะต้องไปทำความรู้จักกับ Option กันก่อนนะครับว่ามันคืออะไร จะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และสามารถคิดตามไปได้ทันท่วงทีครับ

OPTION คืออะไร ??

แอดจะไม่อธิบายเป็นคำพูดสวยหรูหรือทางการละกันนะครับ

เอาแบบที่เข้าใจง่ายและเห็นภาพกันไปเลยดีกว่า

Option คือ สิทธิในการซื้อ (Call) หรือขาย (Put) ตามราคาที่ได้กำหนดไว้บนสิทธินั้น ยกตัวอย่างเช่น แอดซื้อ Call ของ Bitcoin ที่ระบุราคาใช้สิทธิไว้ $51,000 แปลว่าหากแอดใช้สิทธิที่แอดซื้อมานี้ตอนที่ Bitcoin ราคาปัจจุบันอยู่ที่ $53,000 แอดก็จะได้ Bitcoin มาครอบครองด้วยต้นทุน $51,000 นั่นเอง

ในส่วนของ Put ก็เช่นกันแต่เป็นสิทธิในการขาย

เช่นแอดซื้อ สิทธิ Put ของ Bitcoin มา โดยราคาใช้สิทธิในการขายอยู่ที่ $57,000 หากวันดีคืนดี Bitcoin ราคาตกไป $50,000 แอดก็สามารถใช้สิทธิและขายได้ที่ราคา $57,000 รับกำไรไปเน้นๆทันที

เข้าใจง่ายใช่ไหม ไม่มีอะไรซับซ้อน

แต่ทุกๆสิทธิที่เราซื้อนั่นจะมีสิ่งที่เรียกว่าค่า Premium อยู่ หรือก็เอาง่ายๆ ก็คือราคาของตัว Option นั่นแหละครับ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในต้นทุนที่เราต้องนำไปคิดด้วยว่าหากเราใช้สิทธิ+ต้นทุนค่า Premium ตรงนี้ เราจะคุ้มค่าไหมนั่นเอง

ทีนี้หากลึกลงไปอีก Option ยังแบ่งได้เป็นอีกหลายประเภทโดยหลักๆทีใช้กันจะมีอยู่ 2 ประเภท คือแบบ American และ European

American Option คือ ผู้ถือ Option จะใช้สิทธิวันไหนก็ได้ก่อนมันจะหมดอายุ

European Option คือ ใช้สิทธิได้แค่ ณ วันหมดอายุ

ซึ่งใน Crypto Market นั้น Option จะเป็นแบบ American ครับ คือใช้สิทธิวันไหนก็ได้ก่อนที่มันจะหมดอายุนั่นเอง

ที่นี้สุดท้าย แล้ว Option ต่างกับ Futures ยังไง?

ต่างครับ เพราะ Option เราเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ใช้สิทธิก็ได้ ถ้าเลือกไม่ใช้สิทธิเราก็จะเสียแค่ค่า Premium ไป

ในขณะที่ Futures นั้นไม่ใช่สิทธิแต่เป็นสัญญา ซึ่งเปรียบเสมือนเราตกลงกับคู่ค้าไว้แล้วว่า ณ วันที่ xxx เราจะซื้อ (Long) หรือขาย (Short) สินค้าหนึ่งๆ ที่ราคาที่ตกลงกันไว้ xxx นั่นเอง ซึ่งก็คือบังคับไว้ล่วงหน้าแล้วครับว่าต้องมีการซื้อขายกันเกิดขึ้นอย่างแน่นอนใน Exchange (ไม่มีการส่งมอบ Tangible Asset เกิดขึ้นจริงๆ)

เสริมให้นิดนึงก่อนไปหน้าต่อไป หากมีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้วยสินค้าจริงๆนอกตลาดหุ้น ตลาดคริปโต หรือตลาดใดๆก็ตาม เช่น ตกลงซื้อขายปลาดิบ 100kg ในราคา xxx บาท ณ วันที่ xxx ในส่วนนี้เราจะไม่เรียกว่า Futures แต่เราจะเรียกว่า Forward แทนครับ เพราะมีการส่งมอบสินค้าจริง

อ่ะไปต่อกันหน้าต่อไป ยาวไปหน่อยนะ แต่หวังว่าจะเข้าใจ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

CALL

แอดได้อธิบายไปในรูปก่อนแล้วว่า Call คืออะไร

แต่ทีนี้เรามาดูกันลึกลงไปอีกว่าเราทำอะไรกับ Call ได้บ้าง

เราสามารถ ซื้อ (Long) Call หรือ ขาย (Short) Call ได้ทั้งสองทางครับ หมายความว่า ผู้ซื้อ (Long) Call จะต้องจ่ายค่า Premium ให้กับ ผู้ขาย (Short) Call นั่นเอง

ผู้ขาย (Short) Call ได้รับค่า Premium ไปเหนาะๆ และได้แต่หวังว่า ราคาของ Bitcoin จะไม่ขึ้นเกินไปกว่าราคาใช้สิทธิที่ตกลงไว้กับผู้ซื้อ มิเช่นนั้นเขาก็จะขาดทุนเละเทะได้เช่นกัน เพราะทางผู้ขาย (Short) Call ก็ต้องนำเงินส่วนที่ขาดทุนเละเทะตรงนี้เนี่ยแหละ ไปจ่ายเป็นกำไรให้กับผู้ซื้อ (Long) Call

ก็เปรียบเสมือนผู้ขาย (Short) Call เขาแทงว่า Bitcoin จะลงครับ เขาเลยเสี่ยงขอเก็บค่า Premium มาก่อนเลย

ยกตัวอย่าง Bitcoin ราคา ใช้สิทธิ $50,000 ค่า Premium $200 ณ จุดนี้ ผู้ขาย (Short) Call ก็ได้รับนิ่มๆไปละ $200 เข้าเป๋า แต่อยู่มาวันนึง Bitcoin ดันขึ้นไป $50,200 หากผู้ซื้อ (Long) Call ใช้สิทธิซื้อ Bitcoin ที่ราคา $50,000 เขาก็จะเท่าทุนเนื่องจาก เมื่อหักค่า Premium ที่จ่ายไปแล้ว โดยรวมเขาก็ยังซื้อที่ราคา $50,200 อยู่ดี ในขณะที่ผู้ขาย (Short) Call ก็เท่าทุนเช่นกัน เพราะเขาต้องจ่ายค่า Premium ที่รับมา $200 ทิ้งไป เนื่องจากราคาขึ้นไปจาก $50,000 เป็น $50,200 นั่นเอง

โดยถ้าอ่านและทำความเข้าใจ เพื่อนๆจะมองเห็นเลยว่า

คนที่ซื้อ (Long) Call นั้น ความเสี่ยงจำกัดอยู่แค่ค่า Premium เท่านั้นเองครับ ก็คือหากราคาลงต่ำมากๆเขาก็แค่ไม่ใช่สิทธิก็จบแล้ว เสียแค่ค่า Premium แต่ถ้าหาก Bitcoin ราคาพุ่งเรื่อยๆ เขาก็สามารถทำกำไรได้อย่างไม่จำกัดจนกว่าจะถึงวันหมดอายุของสิทธินั่นเอง

กลับกันผู้ขาย (Short) Call กลับมีโอกาสขาดทุนได้อย่างไม่จำกัดเลยครับถ้าหาก Bitcoin ราคาขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสได้กำไรแค่ค่า Premium ที่รับมาเท่านั้นเอง

ดังนั้นจะเล่นก็ระวังกันให้ดีครับ อันตรายฝุดๆ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

PUT

เอาง่ายๆ คล้ายๆกับ Call ที่อธิบายไป แต่แค่ตรงกันข้ามทั้งหมด

เราสามารถ ซื้อ (Long) Put หรือ ขาย (Short) Put ได้ทั้งสองทางครับ หมายความว่า ผู้ซื้อ (Long) Put จะต้องจ่ายค่า Premium ให้กับ ผู้ขาย (Short) Put นั่นเอง

ผู้ขาย (Short) Put ได้รับค่า Premium ไปกินทันทีเหนาะๆ และได้แต่หวังว่า ราคาของ Bitcoin จะไม่ลงเกินไปกว่าราคาใช้สิทธิที่ตกลงไว้กับผู้ซื้อ มิเช่นนั้นเขาก็จะขาดทุนเละเทะได้เช่นกัน เพราะทางผู้ขาย (Short) Put ก็ต้องนำเงินส่วนที่ขาดทุนเละเทะตรงนี้เนี่ยแหละ ไปจ่ายเป็นกำไรให้กับผู้ซื้อ (Long) Put

ก็เปรียบเสมือนผู้ขาย (Short) Put เขาแทงว่า Bitcoin จะขึ้นครับ เขาเลยเสี่ยงขอเก็บค่า Premium มาก่อนเลย

ยกตัวอย่าง Bitcoin ราคา ใช้สิทธิ $50,000 ค่า Premium $200 ณ จุดนี้ ผู้ขาย (Short) Put ก็ได้รับนิ่มๆไปละ $200 เข้าเป๋า แต่อยู่มาวันนึง Bitcoin ดันลงไป $49,800 หากผู้ซื้อ (Long) Put ใช้สิทธิขาย Bitcoin ที่ราคา $50,000 เขาก็จะเท่าทุนเนื่องจาก เมื่อหักค่า Premium ที่จ่ายไปแล้ว โดยรวมเขาก็ยังขายที่ราคา $49,800 อยู่ดี ในขณะที่ผู้ขาย (Short) Put ก็เท่าทุนเช่นกัน เพราะเขาต้องจ่ายค่า Premium ที่รับมา $200 ทิ้งไป เนื่องจากราคาลงไปจาก $50,000 เป็น $49,800 นั่นเอง

โดยถ้าอ่านและทำความเข้าใจ เพื่อนๆจะมองเห็นเลยว่า

คนที่ซื้อ (Long) Put นั้น ความเสี่ยงจำกัดอยู่แค่ค่า Premium เท่านั้นเองครับ ก็คือหากราคาขึ้นสูงมากๆเขาก็แค่ไม่ใช่สิทธิก็จบแล้ว เสียแค่ค่า Premium แต่ถ้าหาก Bitcoin ราคาตกลงเรื่อยๆ เขาก็สามารถทำกำไรได้อย่างไม่จำกัดจนกว่าจะถึงวันหมดอายุของสิทธินั่นเอง

กลับกันผู้ขาย (Short) Put กลับมีโอกาสขาดทุนได้อย่างไม่จำกัดเลยครับถ้าหาก Bitcoin ราคาลงเรื่อยๆ และมีโอกาสได้กำไรแค่ค่า Premium ที่รับมาเท่านั้นเอง

ดังนั้นจะเล่นก็ระวังกันให้ดีครับ อันตรายฝุดๆ

About this author

บิทดอย มาติดดอยกันเถอะ !!
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on telegram
Telegram
Share on email
Email
more articleS
© 2019 BITCOINADDICT | ALL RIGHTS RESERVED