ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจ Bitcoin Halving กันก่อน
จากโคดที่ Satoshi Nakamoto ได้เขียนขึ้นกำหนดให้ reward ของคนที่ขุด และยืนยันในแต่ละ Block ของเครือข่าย Bitcoin จะลดลงจาก 12.5 ฺBTC เหลือ 6.25 BTC ซึ่งเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2020 การลดของ reward นี้เองเหมือนเป็นการลดระดับ inflation ที่เกิดขึ้นในแต่ละปี คนที่ออกแบบเชื่อว่าการที่ลดระดับ Supply ลง ในขณะที่ระดับ Demand ยังคงเพิ่มขึ้น หรือคงเดิมราคาของสินทรัพย์นั้นก็ควรจะเพิ่มขึ้นตามระดับ Demand นั่นเอง
มาย้อนดูปรากฎการ ฺBitcoin Halving ครั้งล่าสุดกันก่อนคือวันที่ 12 พฤษภาคม 2020
ใครที่ผ่านตลาดในช่วงปี 2020 ก่อนเกิด Bitcoin Halving หลังจากเกิดการ crash ของตลาดจาก COVID-19 ทั้งรายย่อย และนักลงทุนรายใหญ่ล้วนมองว่า Bitcoin Halving เป็นเพียงแค่การ “Sell the news” ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อราคา
แต่ถ้าดูจากข้อมูลในอดีตแล้ว เราจะเห็นได้ว่าทุกๆครั้งที่เกิด Bitcoin Halving จะเกิดการปรับตัวของราคาอย่างมาก โดยครั้งล่าสุดหลังจาก Halving เกิดการปรับตัวของราคามากกว่า 300% ถ้าอิงราคาในเดือนนี้ และมากถึง 600% เมื่อนับราคา All Time High
ทำไมเราถึงยกเหตุการณ์ Bitcoin Halving มาเปรียบเทียบกับ Ethereum EIP 1559 Upgrade
ในกลางเดือนกรกฎาคม Ethereum Mainnet จะมี Upgrade ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการอัพเกรด Tokenomics ของ ETH ที่ใหญ่ที่สุด สามารถเปรียบเทียบกับ Halving ต่างๆ ของ BTC
การอัพเกรดนี้มีชื่อเรียกว่า EIP หรือ Ethereum Improvement Proposal ฉบับ 1559
สิ่งหลักที่ EIP 1559 เปลี่ยนคือ กลไกคำนวนค่าธรรมเนียมการใช้ Ethereum ปัจจุบันคนที่เคยใช้ Network Ethereum จะคุ้นเคยกับการที่ Input ค่าธรรมเนียม (Gwei) ที่ตนเองอยากจ่ายให้กับ Miner ของ Network หากค่าธรรมเนียมต่ำเกินและไม่มี Miner มา Validate เราจะไม่สามารถทำธุรกรรมได้
แต่หลังจาก EIP 1559 ถูกดำเนินการเรียบร้อย จากเดิมแทนที่จะให้พวกเราเลือกค่าธรรมเนียมที่เราอยากจ่ายให้กับ Miner แต่จะเปลี่ยนเป็นให้มี Base Fee ที่เราต้องยินยอมจ่ายแทนเพื่อดำเนินการทำธุรกรรม และ Base fee นั้นๆหลังจากถูกจ่ายโดยคนทำธุรกรรมแล้ว จะถูก Burn และ Remove จาก Network ตลอดไป
การอัพเกรดของ EIP 1559 จะทำให้ Token ETH มี Supply ที่น้อยลงเรื่อยๆ ตามจำนวนการทำธุรกรรมของ Decentralized Application(dApp) ต่างๆ ไม่ว่าเป็น DeFi หรือ NFT ก็ตาม
การเปลี่ยนรูปแบบ Tokenomis ของ ETH ในครั้งนี้คล้ายกันกับปรากฎการ Bitcoin Halving ที่เป็นการลด Supply ที่อยู่ในระบบเพื่อผลักดันราคาให้สูงขึ้น และถ้ามีการพัฒนา dApp บน Ethereum มากขึ้นเท่าไหร่จะทำให้เกิด Demand การใช้ Ethereum เพราะฉะนั้นจาก Demand ที่เพิ่มขึ้น แต่จำนวน Supply ที่ลดลงจะผลักดันให้ราคา Ethereum สูงขึ้น
จากข้อมูลของเว็บ http://watchtheburn.com/ จำนวน ETH Burned บน Ethereum Testnet Ropsten เราสามารถเห็นได้ว่า เกือบ 90,000 ETH หรือ $190m ถูก Burn ไปแล้วไม่ว่าเราจะอยู่ในตลาด Bullish หรือ Bearish ก็ตามการมาของ EIP 1559 เป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง เพราะจะเป็นการส่งผลต่อตลาดอย่างแน่นอน โดยเฉพาะจำนวน ETH ที่ถูก Burn จะเป็นการสร้าง Buying Pressure ของตัว Ethereum โดยตรง
มาติดตามไปด้วยกันว่าการมาของ Etherem EIP 1559 Upgrade จะส่งผลต่อราคามากน้อยแค่ไหน?
สำหรับบทความเต็มของ Ethereum จะมาเร็วๆนี้ครับ
Featured image credit: medium
