“Bitcoin Halving” เป็นหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ผู้คนในแวดวงคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลกต่างเฝ้าจับตาว่าจะมีผลกระทบต่อทิศทางราคาบิตคอยน์อย่างไร เนื่องจากเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี
เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในกลไกระบบการเงินของบิตคอยน์ ที่ “ซาโตชิ นากาโมโตะ” ได้วางไว้ ซึ่งนากาโมโตะนี้เป็นเพียงนามแฝง ไม่มีใครรู้ว่า จริงๆ แล้วคือชื่อของคนเพียงคนเดียว หรือชื่อของกลุ่มบุคคลกันแน่
แต่ที่แน่ๆ “นากาโมโตะ” คือผู้ที่กำหนด “นโยบายการเงิน” ไว้ว่าบิตคอยน์ในระบบจะต้องมีจำนวนจำกัดและหาได้ยากเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ (ไม่ใช่พิมพ์ออกมาเท่าไหร่ก็ได้ เหมือนระบบของธนาคารกลาง) ระบบนี้จึงกำหนดให้มีเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น โดยจะผลิต (เปรียบได้กับการพิมพ์เงิน) ออกมาทุกๆ 10 นาที และอัตราการผลิตจะลดลงครึ่งหนึ่ง (Halving) ทุกๆ 4 ปี
“บิตคอยน์ Halving” จึงหมายถึงการลดลงครึ่งหนึ่งของบิตคอยน์ แต่การลดลงนี้หมายถึงบิตคอยน์ที่จะออกใหม่นะคะ ไม่เกี่ยวกับบิตคอยน์ออกมาก่อนหน้านี้ที่มีหมุนเวียนอยู่ในระบบ (Circulating Supply)
ยิ่งมีจำนวนขุดและพลังในการขุดที่มหาศาลมาก โจทย์ในการขุดก็จะยิ่งยากมากยิ่งขึ้น นั่นส่งผลให้นักขุดแต่ละรายนั้นต้องใช้ทรัพยากรในการยืนยันธุรกรรมมากยิ่งขึ้น (ไม่ว่าจะเป็นการใช้สเป็คเครื่องขุดที่มีคุณภาพมากขึ้น โค้ดดิ้งในการขุด หรือแม้แต่จำนวนเครื่องขุด) ส่งผลให้นักขุดที่มีทรัพยากรที่ไม่มีคุณภาพมากพอเริ่มเกิดการขุดที่ไม่คุ้มต้นทุนและส่งผลให้ออกไปจากตลาดในที่สุดมื่อจำนวนนักขุดในระบบมีน้อยลง ระบบของบิตคอยน์ก็จะมีการปรับให้ค่า Difficulty ลดลงเพื่อให้นักขุดที่ทรัพยากรมีคุณภาพสูงมากพอที่ยังเหลืออยู่แก้โจทย์ได้ง่ายขึ้นวนแบบนี้เป็นวัฏจักร
หากทุกอย่างเป็นไปตามกลไกนี้ บิตคอยน์ จะผลิตออกมาครบทั้งหมด 21 ล้านเหรียญในปี ค.ศ.2140 (พ.ศ.2683) หรือนับจากไปอีก 120 ปี!